Money management มีความสำคัญอยู่สองเรื่องด้วยกันคือ Portfolio design และ Position sizing แต่ตีความรวมให้ครอบคลุมที่สุดแล้วมันคือ Risk management นั่นเอง นั่นคือในการเทรดแต่ละครั้งหากผิดทาง ก็อย่าให้มีความเสี่ยงมากจนไม่มีเงินเหลือไปเทรดครั้งต่อไป ซึ่งการผิดทางนั้นระบบเทรดทั่วไปนั้นมีโอกาสผิดมากกว่าถูกอยู่แล้ว ทั้งนี้ยังต้องเผื่อการ Draw down (การผิดทางซ้ำซาก) ไว้ด้วย เช่นหากผิดทางติดต่อกันห้าครั้ง ก็จะต้องมีเงินเหลือไว้เทรดครั้งต่อไป และไม่ทำให้เราเครียดด้วย
ในที่นี้ขอกล่าวถึง Position sizing
Risk Amount per Trade <= 1 – 3% of Portfolio Size (say, 2%).
ตัวอย่าง
Portfolio size: 100,000 Baht
Position size management: Equal size
Minimum size per stock: 20,000 Baht
Number of stocks to trade (#Stk): 100,000/20,000 = 5
Risk per stock (RPS): 2%Port = 2% x 100,000 = 2,000 Baht
Maximum drawdown = RPS x #Stk = 2,000 x 5 = 10,000 Baht
Maximum drawdown: 6% Port, if we chose stock in difference sectors, 2% Port if the stocks are in the same sector.
So, #Stk = 3 (if we chose stock in difference sector; max. risk = 6% Port), or #Stk = 1 (if we choose stock in only one sector; max. risk = 2% Port)
Max. Risk Reward Ratio (RRR): 1/3 (Some time we call Min. RRR: 3/1, aka Reward Risk Ratio) – not stick to definition, just understand which one you prefer to define it.
โดยทั่วไป Buy signal มักจะมาไม่พร้อมกัน ให้ยึดหลักการต่อไปนี้
- หลังจาก 1st trade ให้รอจนกระทั่งเราสามารถ Eliminate risk ได้โดยใช้ Trailing stop แล้วเราจึงเริ่ม Trade ตัวอื่นต่อไป
- ในกรณีที่ต้องการ Trade อีกตัวแต่เรายังถือ Position ตัวก่อนที่ยังมี Risk อยู่ ถ้าจะซื้อให้หา Sector อื่น (Risk diversify) แต่ทั้งหมดต้องไม่เกิน 6%Port
Leave a Reply